วิธีแลกคะแนนแทนเงินเข้าบัญชี @ ktc forever rewards

การใช้บัตรเครดิตรูดซื้อของแล้วได้คะแนน ktc forever rewards 

จากการใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการทุก 25 บาท ได้คะแนน = 1 คะแนน 

สามารถนำคะแนนไปแลกเงินคืนเข้าบัญชีได้ (ในรอบบิลถัดไป)

ใช้คะแนน 1,000 คะแนน เพื่อรับแลกเงินคืนได้ = 100 บาท

เริ่มต้นใช้จำนวนคะแนนแลกได้ตั้งแต่ 1,000 คะแนน ขึ้นไปค่ะ

ใช้ตามจำนวนคะแนนที่ระบุไว้ 1,000 / 2,000 / 3,000 /..ถึง 100.000 คะแนน

นี่เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตแล้วให้ได้ประโยชน์กลับคืนมา

แม้จะเป็นจำนวนเงินเพียงเล็กน้อย แต่ก็ควรทำ! ถ้าชอบที่จะใช้บัตรเครดิต

ธนาคาร/สถาบันการเงินไหนๆก็ตาม วิธีการคิดเงินของเขาก็ยังคงต้อง
ใช้จำนวนเงินเศษสตางค์กันอยู่เลย! เก็บสะสมไว้แม้เป็นเงินแค่สลึง มารวม

สี่สลึงก็เป็นหนึ่งบาทแล้ว เห็นบางคนทำได้เก็บออมเงินไว้ในกระปุกออมสิน

ไม่นำเงินออกจากกระปุกเลย นานวันเข้าก็สามารถเก็บเงินได้เป็นก้อนใหญ่

*~*____*~*~~***

"อย่านอนตื่นสาย"
"อย่าอายทำกิน"

"อย่าหมิ่นเงินน้อย"

"อย่าคอยวาสนา"

*~*~~***

x

วิธีง่ายๆ การแก้ไขหนี้จากการใช้บัตรเครดิต(เกินวงเงิน)

ตามที่ได้ใช้จ่ายจากบัตรเครดิตจนเกินวงเงินไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ ^ o ^

จะไปคิดถึงว่าเนื่องจากสาเหตุใด! ใครทำ? นั้น..คิดไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร

เพราะสุดท้ายตัวเราผู้ใช้บัตรเครดิตนั้นก็ต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว

จึงได้คิดหาวิธีนำเงินไปใช้คืน เพื่อแก้ไขปัญหานั้นในหนทางเลือกที่ดีที่สุด!

ในความโชคร้ายนั้นมักจะแฝงมากับสิ่งที่ดีๆที่มาพร้อมกัน เพียงแต่มีสติคิดได้

จำนวนหนี้ที่ใช้เกินวงเงินไปเป็นก้อนไม่มากเกินกว่ากำลังรายได้ที่มีอยู่=สิ่งที่ดี!

ซึ่งในวันที่มีรายได้เข้ามา เราก็สามารถนำเงินก้อนนั้นไปปิดบัญชีได้เลย

แต่ควรคำนึงก่อนว่า "จำนวนเงินรายได้ที่มีอยู่" เรามีรายการใช้จ่ายค่าอะไรบ้าง?

ในแต่ละเดือน แต่เมื่อนำเงินก้อนนี้ไปปิดบัตรแล้ว จะทำให้เงินขาดสภาพคล่อง?

ถ้าเดือนนี้เรายังไม่พร้อมไปปิดบัญชีบัตรเครดิต ก็ควรใจเย็นซักนิดหนึ่งก่อน

ค่อยๆนำเงินมาแบ่งจ่ายหนี้ไปเท่าที่สามารถทำได้ อาจจะใช้เวลาอีก 2-3 เดือน

และอาจมีกฎเหล็กในการใช้จ่ายจากบัตรเครดิต ในช่วงเวลานี้ให้น้อยลงๆๆ

เพื่อให้คงเหลือยอดบิลนั้นน้อยที่สุด...ที่เป้าหมายในการสรุปยอดบิลสุดท้าย

ทีนี่..ก็เป็นเรื่องง่ายๆ ที่เราจะปิดบัญชีใช้บัตรเครดิตไปได้อย่างสะดวกสบาย !

ส่วนตัวแล้วยังมีความคิดที่จะขอใช้บัตรอีกครั้งโดยการใช้รายได้มาค้ำประกัน

ปล.ควรใช้บัตรเครดิตกับเจ้าของบัตรที่เรามีเงินรายได้ผ่านบัญชีนั้นทุกเดือน

สะดวกในการขอดูบัญชีรายได้ย้อนหลัง , มีโอกาสอนุมัติบัตรเครดิตได้ง่ายๆ 

ขอบัตรหลัก,หน้าบัตรเพิ่มเพียง 1-2 บัตร ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้จ่าย

ทำให้สะดวกง่ายไม่สับสน/ยุ่งยาก ในการควบคุมการใช้จ่ายบัตรเครดิตนั้น

ความคิดส่วนตัวที่ว่า "108 เทคนิคใช้บัตรได้มีประโยชน์ ได้ดีที่สุดก็แค่เสมอตัว"

หากไม่ได้รับการอนุมัติบัตร ก็โชคดีอย่างหนึ่ง..แค่จัดการใช้จ่ายเงินสดสบายใจ

บัตรเครดิตฉัน-ติดลบ-เมื่อวางใจกับข้อมูลใช้บัตรออนไลน์ !?

<<< อ่านกันต่อจาก...>>>   " ด่วน! เจอแล้ว..พิษสง! ของการใช้บัตรเครดิต? "

ไม่สามารถใช้จ่ายอะไรได้อีก เพราะใช้จ่ายเกินวงเงินไปแล้วโดยปริยาย..จึงได้โทร
ไปสอบถาม จนท.บัตรฯอีกรอบหนึ่งว่าเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะหา.!?."เทคนิคการใช้บัตร
อย่างมีประโยชน์ชาญฉลาด!" วิมานทรายถูกพังทลายลงไปไม่เป็นท่า! เสียใจจริงๆ

รับสายจากเจ้าหน้าที่บัตรเครดิต..."สวัสดีค่ะ ดิฉัน..zz~~~#*~~~ยินดีให้บริการค่ะ"
พูดรัวๆ(โดยเฉพาะชื่อ)จนฟังไม่ทัน ก็เลยไม่รู้ว่าคุยกับใคร?และผู้ใดกำลังให้บริการ
เช่นดังเดิมๆ แล้วเราก็คิดไม่ทันที่จะบันทึกเสียงไว้(เหมือนทางระบบบัตรเครดิตแจ้ง)

พูดตอบมาง่าย!ๆ ว่าเข้าดูข้อมูลแล้วมีบันทึกไว้ให้แก้ไขเป็นให้ใช้ยอดรวมเดียวกัน
ให้เป็นไปตามเงื่อนไข "ฟิกซ์ค้ำ" ฮืมมม..! ถ้าจะใช้เงินรายได้ค้ำฯ ก็ต้องปิดยอดก่อน
แล้วยื่นกู้มาใหม่..แต่"จะอนุมัติบัตรได้หรือไม่มิอาจทราบได้!"(ประโยคนี่เราตอบเอ๊ง)

คิดซิคิด! นี่มันความผิดของฉันรึไง? ที่ระบบข้อมูลบัตรฯมันตั้งไว้ให้ใช้แบบนี้มา 5 รอบ
นึกครึ้มอกครึ้มใจวันใด..ก็นึกได้ผิดเงื่อนไขจึงให้กลับไปใช้ดั้งเดิม แล้วที่ใช้ไปเกินอ่ะ
จะทำไงล่ะ! ถ้าเป็นลูกหนี้บัตรทำพลาดก็คงถูกชดใช้เป็นเงินทุกบาททุกสตางค์ล่ะนะ!

ไม่มีความรู้สึกผิดพลาดอะไรเลยจากปลายสาย...เราเองนะต้องรับกรรมค่อยใช้หนี้ไป
ต้องกลับมานั่งใจลอยคิดทบทวน !?!?... จนท.บัตรเครดิตคีย์ข้อมูลบัตรลงไว้ให้เราใช้
เป็นเพราะความผิดพลาดของเขา หรือว่าจะเป็นกลวิธี/กลหลอกล่อให้เราใช้จ่ายบัตรฯ

โดยใช้ระยะเวลาช่วงหนึ่ง ในการเข้าไปสู่วังวนของ "วงจรหนี้" มากจนยากแก่การที่จะ
ควบคุมการใช้จ่ายจากบัตรฯ จนไม่สามารถแก้ไขหนี้นั้นได้  ต้องอยู่จมไปกับกองหนี้สิน
ก็มีสิทธิ์ที่จะคิดได้ทั้งทางด้านบวก และด้านลบได้เช่นเดียวกัน ก็สุดแล้วแต่มุมมองใคร?

สรุปง่ายๆ เลยนะว่า ถึงเราจะใช้วิธีดีๆ 108 เทคนิคใช้บัตรเครดิตให้มีประโยชน์ได้อย่างไร?
เมื่อใช้จ่ายจากบัตรเครดิตต่างๆนี้ก็ตาม จากประสบการณ์ที่ได้เจอมากับตัวเองนั้นคิดว่า..

ปล.

" ใช้บัตรเครดิตได้ดีที่สุดก็แค่..เสมอตัว! " เท่านั้นจริงๆ 

คงไม่มีใคร? ที่ฉลาดเกินไปกว่า " ผู้ที่ออกบัตรเครดิต "

ด่วน! เจอแล้ว..พิษสง! ของการใช้บัตรเครดิต?

เพิ่งจะเล่าให้กันฟังไปหยกๆ ถึงการใช้บัตรเครดิต (ยุคใหม่) อย่างมีประโยชน์
กำลังรู้สึกภูมิใจอยู่เชียว! ว่าตัวเองฉลาดสามารถควบคุมการใช้บัตรได้ดีเป๊ะ ๆ
มีความสนุกกับการจัดการใช้จ่ายซื้อของด้วยการทำรายการแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ

แต่เมื่อเข้าไปดูบัญชีข้อมูลบัตรเครดิตออนไลน์ของตัวเอง..เห็นแล้วขมขื่นสุดๆ
ข้อมูลระบบมันปรับเปลี่ยนไปๆมาๆอีกแล้ว จากปัญหากับ " การใช้วงเงินบัตร "
ด้วยเรื่องเดิมๆ ใช้จ่าย 2 บัตรเครดิต โดยใช้วงเงินเดียวกัน @ ใช้วงเงินแยกกัน

เราได้ใช้บัตรเครดิต โดยใช้สมุดเงินฝากค้ำประกัน /ที่ธนาคารเรียกว่า"ฟิกซ์ค้ำ"
ได้บัตรหลักมาด้วยวงเงินอนุมัติ=ยอดเงินฝาก ตามที่เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกไว้
อีกเดือนต่อมาเราได้บัตรเพิ่มอีกใบหนึ่ง ได้วงเงินอนุมัติบัตรนี้=จำนวนบัตรแรก

ในข้อมูลบัญชีบัตรเครดิตออนไลน์ ก็ตั้งรายการไว้ให้ใช้จ่ายบัตรไปแบบนั้น เมื่อ
มีการใช้จ่ายจาก 2 บัตร รายการที่ปรากฎก็จะหักไปตามยอดวงเงินอนุมัติให้ไว้
พอถึงสรุปยอด ก็มีรายการเรียกเก็บไปตามนั้น และเราก็ชำระหมดในรอบบัญชี

ต่อมาก็ได้ยื่นขอทำบัตรเสริม 1 บัตร และได้สังเกตุเห็นว่ายอดบัตรหลักกับบัตร
เสริมปรากฎยอดเงินรายจ่ายขึ้นเท่ากัน ทั้งๆที่ไม่ได้ใช้จ่ายจากบัตรเสริม เมื่อ
เกิดความสงสัยในการใช้บัตรเสริม(ครั้งแรก) ก็เลยได้โทร.สอบถาม จนท.บัตรฯ

เจ้าหน้าที่บัตรได้ตรวจสอบข้อมูลบัญชีให้ แล้วบอกว่าเราได้รับการอนุมัติวงเงิน
จำนวนเงิน 2 ยอด 2 บัตร เพื่อสะดวกในการใช้บัตรเครดิต แต่บัตรเสริมจะใช้วง
เงินเดียวกันกับบัตรหลัก(ใบแรก)ตอนนั้นเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วก็ใช้บัตรอย่างมั่นใจ

ผ่านไปอีก 2 รอบบัญชี ก็เกิดปัญหาเดิมนี้ขึ้นมาอีกหละ!?..เฮ้ออ! วันดีคืนดีข้อมูล
บัญชีบัตรเครดิตเราก็ต้องกลับไปใช้ 2 บัตร+1 บัตรเสริม รวมใช้ในวงเงินเดียวกัน
ยอดวงเงินใช้จ่ายจึงติด - ลบ ใช้เกินวงเงินบัตรไปอีกห้าพันกว่าๆ เจอพิษสงเต็มๆ!


<<อ่านต่อ>>... "บัตรเครดิตฉัน-ติดลบ-เมื่อวางใจกับข้อมูลใช้บัตรออนไลน์ !?"

ยุคใหม่ ! ใช้บัตรเครดิตให้มีประโยชน์ @ สร้างวินัยการเงิน

เมื่อปลายปี 2561 ที่ผ่านมา ก็ได้หวนคืนกลับสู่ "วงจรใช้เงินในอนาคต" อีกครั้งหนึ่ง !
กลับมาด้วยประสบการณ์เต็มตัว แต่ก็ยังรู้สึกหวั่นวิตก มีอาการหนาวๆร้อนๆ อยู่ทุกครั้ง
ที่ใช้จ่ายเงินจากบัตรเครดิต  มารอบนี้ตั้งใจใช้บัตรธนาคารที่รับเงินบำนาญเจ้าเดียวพอ!

มีเวลาว่างพอที่จะเข้าไปศึกษาการใช้บัตรให้มีประโยชน์ที่สุด ตามอ่านข้อซักถาม
จากประสบการณ์ผู้ที่ใช้บัตรเครดิต อ่านและโน๊ตที่สำคัญๆไว้เป็นเล่มๆ ทำความเข้าใจ
กับการคิดดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมต่างๆ วันสรุปยอดค่าใช้จ่ายบัตรจากทางธนาคาร 

สร้างวินัยการใช้เงินใหม่ให้ดีๆ เมื่อใช้จ่ายซื้อของแต่ละครั้งต้องเก็บสลิปไว้ แล้วนำไป
ลงในสมุดบัญชี เอาความรู้หลักการบัญชีเบื้องต้นเมื่อครั้งเรียน ปวช. งัดออกมาใช้งาน
อีกครั้งก็คราวนี้แหละ เพราะยังเข็ดขยาดกับการเป็นหนี้เมื่อก่อนๆ จึงต้องใช้อย่างระวัง!

ตอนนี้วันๆ ก็เหมือนกับได้เข้าห้องเรียนหนังสือในวิชา "การใช้บัตรเครดิตให้มีประโยชน์"
ใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีพในครอบครัว ติดตามดูโปรโมชั่นดีๆ มีส่วนลด มีเงินคืน
ได้คะแนน x กี่เท่า เมื่อซื้อของด้วยเงินมากหน่อยก็ไปทำรายการแบ่งจ่าย ถ้าได้ 0% ยิ่งดี

ยุคสมัยใหม่นี้ใช้บัตรเครดิต มีการทำรายการแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ ตั้งแต่ 3 งวด จนถึง 10 งวด เสียดอกเบี้ยแค่ 0.80 ฿  ซึ่งเป็นข้อดีที่จะช่วยผู้ใช้บัตรเครดิตได้นะ พอครบรอบจ่ายบิลก็
รีบนำเงินไปจ่ายให้ตรงงวด และมีกฎเหล็กว่าต้องจ่ายให้ได้เต็มยอดค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บ

ถ้าจำเป็นต้องกดเงินสดจากบัตรเครดิตมาใช้ ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียมการใช้เงิน มีดอกเบี้ย
แพงมากกว่าการใช้บัตรไปรูดซื้อสินค้า/บริการ เมื่อถึงรอบบิลเรียกเก็บก็ต้องจ่ายเงินคืน
ให้ครบตามจำนวน ถ้าจ่ายไปแค่ขั้นต่ำ ก็จะเหลือยอดเงินเป็นหนี้ค้างจะเสียดอกมากขึ้นๆ

บัตรเครดิต  มีทั้งผลดี  และผลเสีย 

มีคุณประโยชน์อนันต์  อาจเกิดโทษมหันต์

ให้รู้ทัน!  สติคิดควบคุม  ติดตามดู 
ดี/ร้าย  อยู่ที่ผู้ใช้นั้น  กำหนดเอง!

20 ปีใช้บัตรเครดิต(ยุคเก่า)->สู่วงจรหนี้สินท่วมหัว!

"คนมีเครดิต" ที่ใช้ได้ถึง 2 ยุคสมัยด้วยกันนั้น

ควรถือว่าเป็นคนโชคดีหรือโชคร้าย !?!

20 ปี @ การใช้บัตรเครดิต<ยุคเก่า>

หลุดเข้าวังวนการใช้เงินอนาคต<สู่>วงจรหนี้สิน!

เริ่มมีบัตรเครดิตใช้ครั้งแรกเมื่อประมาณ ปี 2531 เครดิตดีจากอาชีพรับราชการ
อายุตอนนั้นประมาณยี่สิบปลายๆ ยื่นขอใช้บัตรเครดิตเจ้าไหนๆก็อนุมัติผ่านฉลุย 

พฤติกรรมการใช้บัตรก็แบบตัดสินใจไว อยากได้ไรซื้อ เสื้อผ้ามียี่ห้อแพงชอบอยู่
2 สีๆนั้นก็ดีสีนี้ก็สวยตัดสินใจไม่ได้รักพี่เสียดายน้อง ซื้อทั้ง 2 ตัวเลย...รูดปรึ้ดดๆๆ
วินัยการใช้เงินอนาคตจากบัตรเครดิตนั้นหรือ?..คือไม่มีเลย วินัยสไตล์ตามใจฉัน !
วันๆก็ก้มหน้าก้มตาทำแต่งานๆ ค่ำมาก็เหนื่อยล้า กลับบ้านกินข้าวนั่งดูละครทีวีสนุก

ถึงสี่ห้าทุ่ม รีแล็กซ์ด้วยการฟังเพลงก่อนนอน ใช้ชีวิตสบายๆชิลๆไม่ได้คิดถึงเลยว่า
เมื่อนำเงินอนาคตไปใช้ก่อนแล้ว เวลาจ่ายบิลทีหลังจะจัดสรรเงินจากส่วนไหนมาคืน
ยุคนั้น ไม่มีโปรโมชั่นเป็นเงินคืน/การแบ่งจ่ายใดๆ เห็นบอกมาว่าสามารถจ่ายขั้นต่ำ
ได้จำนวนเงินเล็กน้อยเพียง 5% ใช้เงินซื้อของไปรอบบิลนี้ 10,000 ฿ คิดง่ายๆก็จ่าย

บิลเรียกเก็บนี้ไปเพียง 500 ฿ เองแหล่ะ สบายจะตายยย! ไม่รู้ไม่อ่านเรื่องคิดดอกไร
ไม่เข้าใจ! สัญญาใช้บัตร เงื่อนไขข้อตกลงเขียนมาซะยืดยาวตัวหนังสือก็เล็ก ไม่ดู!
จ่ายบิลค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บแค่ 5% เผลอใช้เงินอนาคตไปไม่นาน 3 บิล วงเงินเต็ม!
ก็เริ่มไปสมัครใช้บัตรใหม่เพิ่มจากมี 1 บัตร เป็น 2 , 3 ,4 บัตรตามมาให้หมุนใช้สนุกมือ


เมื่อเออรี่รีไทร์จากงานราชการ กว่าจะได้รับเงินบำนาญรายเดือน และได้เงินขวัญถุง
อะไรตามสิทธิ์ ก็ปาเข้าไปเดือนที่สามแล้ว แล้วค่าใช้จ่ายหนี้สินที่ต้องกินต้องใช้จ่าย
เป็นเวลาตั้ง 3 เดือนนั้นจะเอาเงินมาจากไหน!? ไปใช้จ่ายเขากันล่ะฮึ ! เจ้านาย !

สรุปก็หมุนเงินไม่ทันจนวงจรอุบาทว์ขาดสะบั้น ! รวมสิริเวลาเข้าสู่วังวนมาร่วม 20 ปี
กับ"วงจรใช้เงินอนาคต" ท้ายสุดก็หยุดเคลียร์หนี้ไป 10 ปี บอบช้ำเหนื่อยหนักจริงๆ 
จนลูกเห็นสภาพแม่ว่าแย่แล้ว@การแก้ไขหนี้นั้น..จนมีความรู้สึกกลัว! "บัตรเครดิต"

Money Story "วงจรหนี้สิน" @เริ่มทำงาน-สร้างหนี้/ออมเงิน

เมื่อปี พ.ศ. 2521 เริ่มต้นทำงานได้รับเงินเดือนจากราชการ เมื่ออายุ 19 ปี เงินเดือน 750 บาท แต่ ได้รับเงินเดือนครั้งแรกเมื่อทำงานไปแล้วเกือบสามเดือน เนื่องจากการเข้ารับราชการใหม่ ต้องมีการทดลองงาน 6 เดือน และกว่าระบบการเบิกเงินจะเข้าที่เข้าทางก็ปาเข้าไปเดือนที่ 3 เงินเดือนก็เลยต้องได้ตกเบิกย้อนหลัง 3 เดือน ที่ผ่านมาไปทำงานก็ต้องยืมเงินแม่ไปใช้ก่อน แล้วเมื่อเงินออกเมื่อไหร่ก็ค่อยเอามาคืนให้แม่ ก็ได้เงินไปกินข้าว+ค่ารถโดยสารนั่งไปทำงานก็น้อยนิด เท่ากับเงินที่แม่จ่ายให้ไปโรงเรียนนั่นแหละ *____*

นั่งมองคนที่รับเงินเดือนเขากินเขาใช้กันแบบสบาย อยากกินอะไรได้กิน อยากซื้ออะไรก็ได้ซื้อ แต่งตัวกันสวยๆมีรถส่วนตัวใช้กันแล้วมันกดดันสะสม..ฮ้าฮ่า..พอวันที่ได้เงินเดือนตกเบิกเป็นก้อนมา 3 เดือน สิ่งแรกก็ต้องใช้คืนแม่ไป เงินที่เหลือก็ต้องเอาไปดาวน์มอเตอร์ไซด์ไว้ขี่ไปทำงาน แค่นี้เงินก็เกือบหมดละ  นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นเป็นหนี้ของข้าราชการตัวน้อยๆ ชั้นยศซี 1 อายุก็น้อยไร้ประสบการณ์ไม่รู้ประสีประสาอะไรมีฐานะทางบ้านแค่พอใช้ ที่กำลังเดินเข้าสู้วังวนของ "วงจรหนี้สิน" โดยไม่รู้ตัว!

จากความที่ต้องอดๆอยากๆ พอมีเงินเดือนประจำทุกเดือน อีกปีต่อมาก็เริ่มมีเครดิต มีรุ่นพี่ป้าน้าอานำของมาขายผ่อนเป็นเสื้อผ้าชุดทำงานสวยๆมียี่ห้อ เมื่อก่อนเสื้อผ้าของวาโก้นั้นเป็นแบรนด์ยอดนิยมเลยล่ะ เขามีบัตรเป็นคูปองผ่อน 2-3 เดือน ให้ไปซื้อผ่อนในห้างสรรพสินค้า ตอนนั้นจำได้ว่าชุดหนึ่งเกือบห้าร้อย ผ่อนจ่าย 2 เดือน ใส่ไปทำงานนี่สวยเลย แสนจะภูมิใจ(ที่เป็นหนี้) และยังมีแหวนทองหัวอัญมณีหลากหลายนำมาให้ผ่อนกันราคาแพงอยู่นะผ่อนแค่ที่พูดถึงสองสาม
อย่างนี้ก็เข้าสู่วงจรหนี้สินโดยไม่รู้ตัวแล้วหละ

ถ้าให้ย้อนกลับไปแก้ไขหนี้สินได้อีกครั้ง..!

สิ่งแรกที่ต้องรีบทำเป็นอย่างยิ่ง!คือ :-

• 1 ปีแรกที่ได้รับเงินเดือน จะไม่สร้างหนี้สินใดๆ 
• ทำบัญชีใช้จ่ายเงินให้ดี ต้องมีเงินออมรายเดือน 
• กินอยู่แบบประหยัด นั่งรถโดยสารไปทำงาน 
• เก็บเงินได้เป็นก้อน แล้วจะนำไปซื้อมอเตอร์ไซต์   
• ใช้เงินซื้อสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้ในการดำรงชีวิต 
• ไม่ใช้จ่ายซื้อของฟุ่มเฟือย เสื้อผ้า/แก้วแหวนแพงๆ
• ให้เงินแม่ไว้บ้าง เพราะรู้ว่า "แม่" เก็บเงินเก่งมาก
• ช่วยงานแม่ ถึงแม้ต้องทำงานและเรียนไปด้วยก็ตาม

สมัยนี้ !.."เงินหายาก" จริงเหรอ ?

จากการที่ไปเดินจ่ายตลาดสด และชอบเดินตลาดนัด ถนนคนเดิน

สังเกตุเห็นว่าในตลาดสดนั้นมีพ่อค้าแม่ค้าขายอาหารแบบแกงถุงบางตาลง

กว่าเมื่อหลายปีก่อนมาก คนขายน้อยลง และคนซื้อที่เดินในตลาดก็น้อยลงไปด้วย

แม่ค้าที่ขายของก็บ่นให้ฟังว่า...ขายของไม่ดีเลย ! ยิ่งช่วงวันหยุดเข้าพรรษาที่ผ่านมา

ไม่ค่อยมีคนเดินเข้าตลาด คนที่รู้จักเป็นแม่ค้าขายหมูปิ้ง ทั้งซี่โครงหมู และสามชั้นปิ้ง

ค่ำมาตลาดเลิกแล้ว ซี่โครงหมู, สามชั้นที่ปิ้งไว้แล้วจนแห้ง  ก็เหลือเป็นกองๆ 

เป็นสิบกิโลได้  มีลูกน้องในร้านหมูปิ้งนี้ได้มาเช่าบ้านเราอยู่ ค่ำมาก็เอาซี่โครง สามชั้น

ที่ปิ้งจนแห้งนั้นใส่ถุงใหญ่มาให้เราที่บ้าน อยู่สองวันติดกันเลยในช่วงนั้น  แต่พอต้นเดือน

ก็จ่ายเงินค่าเช่าให้เราไม่ครบตามจำนวนค่าเช่า ! บอกว่า"เดือนนี้ผมมีเงินอยู่แค่นี้..จบ!"

ส่วนพ่อค้าแม่ค้า ตามตลาดนัด และถนนคนเดิน ในย่านที่เราอยู่อาศัย มีขายกันอยู่

ครบ 7 วัน เพียงสลับสถานที่กันเท่านั้นเอง สังเกตุดูคนมานั่งขายของอยู่จำนวนมากจริงๆ

บางแห่งที่ไม่ใช่ย่านธุรกิจ เป็นตลาดนัดชุมชนนั้น เห็นคนมาเดินซื้อของบางตา แต่ถนน

คนเดินย่านธุรกิจเช่นที่่มีโชคพลาซ่านั้น มีคนขายมาก คนมาเดินเที่ยวแต่ไม่ซื้อก็มาก

ที่ไร่ผลไม้ของเรา ก็นำไปส่งขายแถวร้านค้าในย่านนั้น 3-4 เจ้า คนรับซื้อก็บ่นกันว่า..

ขายของไม่ดีเลย ขนาดแก้วมังกรที่เก็บไว้ขายได้นานไม่เสียง่ายถึงเกือบ 3 สัปดาห์

ยังขายได้ช้ามากๆ จนเน่าเสียแม่ค้าต้องเก็บทิ้งไปก็มี  ราคาขายผลไม้ส่ง จึงมักจะ

ได้ราคาส่งที่รับซื้อถูกๆ เพราะแม่ค้ารับซื้อจะเผื่อขายไม่ทันและต้องทิ้งไปนั่นแหละ!

ในเมื่อ..." เงินมันหาได้ยากจริงๆ ในยุคสมัยนี้ ! "

ก็จงอย่าประมาท!

ในการดำรงชีวิต ให้มีสติมากๆ กับเรื่องการใช้จ่าย รู้จักประหยัด ไม่ใช้ของฟุ่มเฟือย 

กินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน ไม่สร้างหนี้เพิ่มขึ้น เพราะจะเกิดความทุกข์ใจ ! ซ้ำซ้อน ทุกข์จาก

การหาเงินได้ยากแล้ว ยังต้องมาทุกข์ใจเรื่องค่าใช้จ่ายที่ซื้อก่อนผ่อนทีหลัง เมื่อเงินหายาก!

 ไม่มีเงินจ่ายคืนก็จะต้องถูกทวงหนี้ถูกบีบคั้น !จนเกิดความทุกข์ในหนี้สินนั้นเพิ่มขึ้นมาอีก!

รีวิว ! ผลการลุ้นระทึก! สั่งซื้อมือถือซัมซุง Note2 Eliexpress

หลังจากเลิกรอไปรษณีย์ บ่ายโมงได้ออกจากบ้านเพื่อเดินทางไป

บริจาคโลหิตที่กาชาด (ซึ่งจะปิดทำการบ่ายสามครึ่ง) ตั้งใจไปทำบุญใหญ่

เนื่องในวันคล้ายวันเกิด ที่ตัวเมืองเชียงใหม่ เรียบร้อยแล้ว

กลับมาถึงบ้านตอนค่ำๆ ลงรถได้ก็เดินตรงไปที่ตู้ไปรษณีย์ทันที ! 

ก็ได้เห็นการ์ดสีชมพูจากไปรษณีย์ตามคาดเลย ! ได้ลงวันที่มาส่งของสี่โมงเย็น

วันจันทร์แล้ว ! 

ออกจากบ้านไปรับของที่ไปรษณีย์ด้วยใจระทึก !

รับของเสร็จ รีบแกะดูโทรศัพท์เลยแหล่ะ ไม่ต้องรอให้ถึงบ้านแล้ว

ปรากฎว่ากล่องสินค้า และโทรศัพท์มือถือข้างใน สดใสใหม่เอี่ยมอ่องจริงๆ

มีอุปกรณ์ชาร์ทแบตเตอรี่ มีหูฟัง และคู่มือการใช้ ครบถ้วนไปแวะร้านโทรศัพท์ 

ซื้อซิมใหม่ใส่ เติมเงินมือถือ ตั้งค่าเครื่องและแป้นพิมพ์เป็นภาษาไทยเรียบร้อย

ชมคลิปรีวิว !

Review ! รีวิวการสั่งซื้อสมาร์ทโฟน 
Samsung Galaxy Note II จากเวปจีน Eliexpress 
ราคาเบาๆ สบายกระเป๋า เพียง 100 ดอลล่า..
แลกกับการต้องลุ้นระทึก !! 

https://www.youtube.com/watch?v=qhYVFstPGrA

เมื่อกลับถึงบ้านเปิดเวป Aliexpress  
กดยืนยันการรับสินค้า 

ให้ 5 ดาว 99100 Shop ทันที *****

ลุ้น!รอพัสดุจาก ปณ.แม่โจ้(สั่งซื้อมือถือซัมซุง)เวปอาลี

เนื่องจาก 21 กรกฏาคม ที่ผ่านมาได้ทดลองสั่งซื้อโทรศัพท์มือถือ

ซัมซุง กาแล็คซี่ Note 2 ถูกสุด! ราคาเกือบจะร้อยดอลล่า เป็นการช้อปปิ้ง

ออนไลน์ จากเวป Eliexpress พอเงินตัดจากบัญชีไปแล้วก็มีความรู้สึกว่า..

ตัวเองกำลังเข้าสู่การ... " ลุ้นระทึก ! " ในการที่จะได้รับสินค้าตัวนี้มาใช้อย่างปลอดภัย

คอยติดตามการจัดส่งเกือบจะทุกวันก็ว่าได้  จนมาถึงวันนี้ เสาร์ที่ 4 สิงหาคม 

เป็นวันใกล้วันคล้ายวันเกิด ซึ่งจะต้องมีกิจกรรมทำบุญอันสำคัญคือ...

การออกไปบริจาคโลหิตที่กาชาด (ในตัวเมือง)  แต่เผอิญเหลือเกินว่า รายการเช็คพัสดุ

ได้ปรากฎขึ้นว่าพัสดุกำลังถุกนำส่ง ก่อนเที่ยง (ไม่รู้เข้าใจจะถูกรึเปล่า ! )

จาก

ประเทศไทย

เหตุการณ์ล่าสุด

ออกส่งพัสดุ

MAE CHO

04 ก.ค. 18 09:58 ก่อนเที่ยง

ถึง

MAE CHO

ออกส่งพัสดุ

ตอนนี้ก็จะเที่ยงแล้ว ยังไม่ได้ยินเสียงรถไปรษณีย์เข้ามาเลย..บรรยากาศที่นี่...

ยังคงเงียบกริบ! แล้วตัวเรามีนัดจะต้องออกไปบริจาคโลหิตล่ะ รีบเช็คเวลาปิดกี่โมงทันที !

[ถาม – ตอบ] เวลาทำการ ไปรษณีย์แม่โจ้ เปิดกี่โมง ปิดกี่โมง ?

Q : เวลาทำการ ไปรษณีย์แม่โจ้ เปิดกี่โมง ปิดกี่โมง ?

A : ไปรษณีย์แม่โจ้ ครอบคลุมอำเภอสันทราย เฉพาะ ต.แม่แฝก, ต.แม่แฝกใหม่, ต.หนองหาร

รหัสไปรษณีย์แม่โจ้ : 50290

เวลาทำการ : เปิดให้บริการวันจันทร์ – วันเสาร์ หยุดทำการทุกวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือวันหยุดตามที่รัฐบาลประกาศ

ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 10 จ.เชียงใหม่ (ข้างโรงเรียนยุพราช) 🏫 📆 ⏰เวลาให้บริการ :: วันจันทร์ /พุธ / ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. อังคาร / พฤหัสบดี เวลา 08.30 - 19.00 น. วันเสาร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00 - 15.30น. ***ปิดทุกวันอาทิตย์*** สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ☎️เบอร์โทรศัพท์ 053-418389 ต่อ 17 (นอกเวลาราชการต่อ 11) ขอบคุณค่ะ

โอ้ละหนอ !! แล้วตัวเองจะทำอย่างไรดี! ก็ไม่มีเบอร์โทร.ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ ซะด้วย...รออีกหน่อยๆๆ..ถึงสักบ่ายโมง(ก็แลัวกัน) ถ้าเค้าไม่มาส่งก็คงต้องออกจากบ้านแล้วล่ะ  ก็คงชวดกับการได้รับพัสดุ(ถ้ามาส่ง)...ที่เฝ้ารอคอยมาถึง 14 วัน แล้วต้องมาลุ้นกันต่ออีกว่าโทรศัพท์ที่มาส่งนั้นจะสามารถใช้ได้ดีหรือเปล่า..!?... ทำไมๆ ทำมั้ย!...จะครบปีเกิดที่กำลังจะผ่านไปนี้ถึงต้องมีแต่เรื่องรอคอย และลุ้นระทึก !! อยู่เสมอๆ 

ต้องลุ้นระทึก ! ทั่วโลก ! กับ 13 หมูป่าออกจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ เชียงราย (แทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน)...แล้วก็ยังไม่วายหาเรื่องใส่ตัว ทำเรื่องลุ้นหัวใจต่ออีกจนได้น้อ!...สั่งซื้อโทรศัพท์ใกล้ๆบ้านเราหน่อยก็ไม่ได้ อยากได้ของถูกๆ ดีๆ คิดไกลไปสั่งซื้อมือถือถึงเมืองจีน นู่น!เลย..เฮ้อ! เวรกรรมจริงๆ 

สรุป คงต้องรอต่อไปอีกวันสองวัน>>จนถึงวันจันทร์

ก็ค่อยมาลุ้น! กันต่อแล้วกัน...ฮิ้ว! 

อากาศครึ้มๆจึงอยากมาเล่าเตือนภัย! "เสี่ยงลงทุน@Internet"

อากาศครึ้มๆจึงอยากมาเล่าเตือนภัย! 

อย่าไปเสี่ยงลงทุนให้มีรายได้จากการลงทุนในเวปไซต์อินเทอร์เน็ต

เรามีประสบการณ์จากครั้งนั้น...ได้สูญเงินไปเกือบสามหมื่นบาทเลยทีเดียว

คงมาจากความโลภ ความไว้ใจคนมากเกินไป บวกกับความโง่ด้วยมั้ง..!

เสียดายเงินมากๆ แต่ก็ไม่สามารถไปโทษใครได้...นอกจากโทษตัวเองนั่นแหละ

เวลาผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว แต่เรายังคงไม่ลืมกับการเอาเงินไปสูญเสีย...

มันเป็นการลงทุนด้วยเงินบาทนี่แหละ ซึ่งจะมีรายได้จากค่าต่างเงินดอลล่าห์ 

ในแต่ละวันๆ เขาบอกมาว่าจะได้รับเงินส่วนต่างนั้นเข้าบัญชีของเราทุกวัน

ก็ใจง่ายคิดเพียงว่าคงไม่เสี่ยงที่จะสูญเงินเพราะมีเงินเข้าในบัญชีทุกวันอยู่แล้ว

พูดตรงๆเลยนะ เราเองไม่เคยรู้จักหรือคุ้นเคยกับเจ้าของเว็บไซต์  หรือ

ผู้รับผิดชอบดูแลระบบนั้นเลย ในขณะนั้นเรายังคงทำงานอยู่ ด้วยตำแหน่งบิ๊กบอส

และไม่ค่อยคุ้นเคยกับการใช้คอมพิวเตอร์เลย เป็นคนโบราณขนานแท้ดั้งเดิม

ส่วนงานเอกสารที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ตนั่นก็เพียงสั่ง ลูกน้องก็ทำให้

ที่เอาเงินไปลงทุนก็มาจากผู้ช่วยเราที่เก่งทางคอมพิวเตอร์ แล้วมาชวนลงทุนกัน

คงด้วยความหวังดีนั่นแหละนะ บอกว่าได้รับการแนะนำมาจากเพื่อนเค้าอีกที

ก็เพียงเอาเงินสดให้เค้าไปโอนไปทำอะไรต่างๆ แล้วเราก็ได้เจ้ากระดาษ 4 แผ่นนี่มา

ไว้เป็นที่ระลึก...รอคอยเงินรายได้เสริมที่เข้ามาในบัญชีทุกวัน ด้วยความอุ่นใจ

แรกๆนั้นก็ยังพอมีสติดี อยู่ในช่วงทดลองก็ลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อยก่อน

แต่พอเห็นเงินเข้าบัญชีทุกวันๆ (ประมาณสัก 5-6 วัน) ก็เริ่มมีความโลภมากขึ้นๆๆ

ก็นำเงินไปลงทุนเพิ่มเติมอีกครั้ง...ก็มีรายได้เป็นหลักร้อยเข้ามาในบัญชีทุกวัน 

(นี่คงเป็นวิธีหลอกล่อให้ตายใจ!..) อีกไม่กี่วันต่อมาเราก็นำเงินไปลงทุนเพิ่มขึ้นอีก

แต่หลังจากนั้น...ปรากฎว่าไม่มีเงินเข้าบัญชีทุกวันเหมือนเดิม จะด้วยเหตุผล

กลใด!!อะไรนั้นก็ลืมๆไปแล้ว!ล่ะนะ...ก็รวมๆประมาณ 3 สัปดาห์  เป็นช่วงที่ความโลภ

ของคนกำลังโดนครอบงำ ประกอบกับคนทำเวปนั้นได้ยอดเงินเข้าบัญชีก้อนโตแล้ว

ทีนี่ล่ะ...ไอ้เจ้าเวปไซต์ขี้โกงที่ตั้งชื่อว่า " E-INDEX 2007 " ก็โกงเงินนั้นหายไป...!!

วันรุ่งขึ้นคนที่เอาเงินไปลงทุนกันต่างก็ไม่สามารถเข้าเวปเจ้ากรรมนั้นได้อีกเลย

ทำเหมือนกับเวปล่ม...อะไรปานนั้นแหล่ะ  วันสองวันหลังจากนั้นก็ยังเข้าเวปไม่ได้

ทีนี้..ทุกคนก็คงรู้แล้วล่ะว่าถูกหลอก ต่างก็สูญเงินกันไปเป็นหลักหมื่นกันถ้วนหน้า

ที่ทำงานที่ถุกโกงไปนั้นก็มีถึงนักกฎหมายด้วย 55..แบบนี้เราจะไปโทษใครที่ไหนได้!?

คติเตือนใจ * โลภมาก ลาภหาย * เงินหายสอย..!! 

วิธีหารายได้จากลาซาด้า Lazada Affiliate

วันนี้จะมาแนะวิธีหาเงินรายได้เพิ่ม

จากอินเทอร์เน็ตอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ 

ก็คือการโปรโมทขายสินค้าออนไลน์

Lazada Affiliate ของลาซาด้านั่นเองค่ะ

  http://lazada.hasoffers.com/signup

  ลงทะเบียน Affiliate

     สมัครในเครือข่ายของเราโดยส่งข้อมูลด้านล่าง

ทำไมต้องเป็น Lazada Affiliate Program?

• ค่าคอมมิชชั่นที่มากกว่า
• ระบบการลงทะเบียนที่ง่าย คุณสามารถเริ่มสร้างรายได้ได้ทันที
• ระบบ dashboard ที่รวดเร็วและแม่นยำ
• ออร์เดอร์มากกว่าอย่างสม่ำเสมอ และมีสินค้านับล้านชิ้นให้โปรโมท
• โปรโมชั่นที่ดีที่สุดผ่าน Application ของเรา
• เครื่องมือทางมาร์เก๊ตติ้งที่ทันสมัย
• ยอดขายของเรามากถึง 6 ล้านดอลล่าในปี 2015

การสร้างรายได้เพิ่มโดยการลงทะเบียนสมัคร Lazada Affiliate ง่ายและฟรี!

เพื่อร่วมโปรแกรมและสร้างรายได้จากลาซาด้ากับการขายสินค้าออนไลน์ Shopping Mall

ในการวางลิ้งก์ที่เวปไซต์ บล็อก และแอพพลิเคชั่น ผ่านทาง Affiliates Progaram

ซึ่งจะได้ค่าตอบแทนในลักษณะการแบ่งปันรายได้จากยอดขายตามประเภทสินค้า

• สินค้าอิเลคทรอนิกส์ 5%
• สินค้าอื่นที่ไม่ใช่สินค้าอิเลคทรอนิกส์ 8%
• สินค้าแฟชั่น 10%

เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเริ่มสร้างรายได้ทันที โดยลงชื่อ

เข้าใช้ที่หน้า Dashboard ในบัญชีของคุณได้เลย สามารถสร้างบัญชี ข้อมูลการรับเงิน

รายได้ และเลือกผลิตภัณฑ์ที่ต้องการโฆษณาและสร้างโค้ดตามรายการที่ต้องการ พร้อมดู

รายงานประสิทธิภาพ และสามารถศึกษาทำความเข้าใจในรายละเอียดต่างๆได้ในคู่มือผู้ใช้

ทั้งนี้จะสามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ กันได้หรือไม่อย่างไร!?ก็อยู่ที่ความมุ่งมั่น

 ความขยันในการทำงานที่เกี่ยวข้องจนสำเร็จได้รับเงินตอบแทน เช่นการสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ

ให้คนเข้ามาดูที่หน้าโปรโมทของเรา จนกระทั่งมีโอกาสตัดสินใจซื้อสินค้าที่เราโปรโมทไว้

ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้ความสนใจศึกษาหาข้อมูลเคล็ดลับต่างๆเพื่อให้ประสบความสำเร็จ