https://108aboutmoney.blogspot.com/google.com,%20pub-3791389710662192,%20DIRECT,%20f08c47fec0942fa0 บัตรเครดิต@ธุรกิจออนไลน์เกื้อกูล?

หน้าเว็บ

บัตรเครดิต@ธุรกิจออนไลน์เกื้อกูล?

บัตรเครดิต กับ ธุรกิจออนไลน์ ความสัมพันธ์ง่ายๆ ที่เกื้อกูลกัน



ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูปบัตรเครดิตกับออนไลน์ช้อปปิ้ง
ในปัจจุบันนี้ไม่ว่าวงการไหนๆ ต่างก็หันมาใช้บัตรเครดิตกันซะเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากความสะดวกสบายที่ไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมากๆ แถมยังเป็นระบบที่สามารถรูดก่อนแล้วค่อยจ่ายทีหลังได้ จึงทำให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของหลายๆ คน นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์มากมายตามเงื่อนไขของธนาคารต่างๆ รวมถึงมีการผ่อนแบบไม่ต้องเสียดอกเบี้ย เมื่อจ่ายในระยะเวลาที่กำหนด
ด้วยเหตุผลต่างๆ เหล่านี้ ผู้คนมากมายจึงหันมานิยมใช้บัตรเครดิตในการซื้อของกันมากขึ้น ซึ่งเจ้าบัตรเครดิตนั้นก็สามารถนำมาใช้กับ ‘วงการธุรกิจออนไลน์’ ได้เช่นกัน ถ้าอยากรู้ว่า บัตรเครดิตจำเป็นยังไง ในการทำธุรกิจออนไลน์ล่ะก็ มาติดตามพร้อมๆ กันได้เลย
บัตรเครดิต

ทำไม? ต้องใช้ บัตรเครดิต กับธุรกิจออนไลน์

ตอนนี้เราได้ก้าวเข้าสู่ยุคสมัยที่ธุรกิจออนไลน์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีระบบอินเทอร์เน็ตที่เข้าถึงผู้คนทุกเพศทุกวัยได้ในแทบทุกพื้นที่ ทำให้การทำธุรกิจออนไลน์นั้นมีการเจริญเติบโตและขยายตัวมากขึ้นตามไปด้วย
ดังนั้นหากมีการใช้บัตรเครดิตในธุรกิจออนไลน์ด้วย ก็จะเป็นการส่งผลดีต่อตัวเจ้าของธุรกิจยิ่งขึ้น เพราะว่าการชำระเงินผ่านระบบบัตรเครดิตนั้นมีความปลอดภัยที่สูงมากๆ อีกทั้งผู้ที่ใช้บัตรเองยังได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากการใช้บัตรด้วย จึงทำให้บัตรเครดิตเป็นอีกหนึ่งช่องทางการชำระเงินที่ได้รับความนิยมในวงกว้างจากผู้คนทั่วโลก
วันนี้ rabbit finance จะขอแบ่งการนำบัตรเครดิตมาใช้ในธุรกิจออนไลน์ออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน ส่วนที่หนึ่ง คือ เจ้าของเป็นคนที่ใช้บัตรเครดิตเองในการทำธุรกิจ และ ส่วนที่สอง คือ เจ้าของธุรกิจให้ลูกค้าชำระเงินตอนซื้อของด้วยบัตรเครดิตได้ เอาล่ะเรามาเริ่มที่ส่วนแรกกันเลย 

เป็นเจ้าของธุรกิจออนไลน์ใช้บัตรเครดิตเอง ดียังไง?

คุณสมบัติของบัตรเครดิตของคนที่ทำธุรกิจและคนธรรมดาทั่วไป จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของวงเงิน ดอกเบี้ย และโปรโมชั่นต่างๆ ที่ผู้ใช้จะได้รับ ซึ่งเราสามารถเลือกใช้บัตรเครดิตที่เหมาะกับเราได้ โดยเฉพาะเจ้าของธุรกิจออนไลน์ที่มีการใช้บัตรเครดิตเองก็จะส่งผลดีต่อตัวเองไม่น้อย
ยิ่งถ้าเป็นคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์แรกๆ หรือบางคนที่ไม่ได้มีเงินทุนในการทำธุรกิจออนไลน์มากเท่าไหร่ การมีบัตรเครดิตจะช่วยได้ในเรื่องการหมุนเวียนเงินที่ใช้ทำธุรกิจให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยสิ่งที่ตัวเจ้าของเองได้รับจากการใช้บัตรเครดิตนั้นจะมีอยู่ 4 ข้อหลักๆ ได้แก่

1.มีเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจตัวเอง

การขายของออนไลน์ต่างๆ เช่น กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องสำอาง หรืออะไรก็ตามที่เป็นแบบ Pre-oder ซึ่งจำเป็นต้องมีการสั่งของล่วงหน้าไว้ก่อน หรือต้องมีการซื้อของมาสต๊อกไว้ โดยตัวเจ้าของเองนั้นต้องใช้เงินของตัวเองออกไปก่อน เพื่อซื้อของมาให้ลูกค้า จากนั้นก็ค่อยรับเงินจากลูกค้ามาเมื่อลูกค้าได้ของที่ต้องการแล้ว
ถึงแม้เราจะสามารถพอคำนวณได้ว่า แต่ละเดือนต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการซื้อสินค้า แต่ว่ามันก็ต้องใช้เงินตัวเองสำรองไปก่อนอยู่ดี ดังนั้นถ้าเปลี่ยนเป็นใช้วงเงินในบัตรเครดิตเป็นเงินหมุนเวียนในการซื้อของไปก่อน แล้วพอลูกค้าจ่ายเงิน ก็ค่อยนำไปชำระบัตรเครดิตของตัวเราเอง และได้เงินกำไรจากส่วนต่าง ก็เป็นเรื่องที่ดีมากๆ ทีเดียว
เนื่องจากการไม่ต้องออกเงินตัวเองไปก่อน นั้นสามารถช่วยเพิ่มสภาพคล่องในการทำธุรกิจออนไลน์ให้เพิ่มมากขึ้นได้ และเมื่อมีสภาพคล่องก็ทำให้มีเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจด้วย แต่อาจต้องควบคุมการใช้จ่ายให้ดีอย่างมีวินัย เพื่อไม่ให้เกินวงเงินในบัตร และต้องพยายามเลือกที่ดอกเบี้ยต่ำ หรืออาจได้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ได้รับจากการใช้บัตรเครดิตให้ได้มากที่สุด

2.เป็นเงินสำรองฉุกเฉินยามจำเป็นจริงๆ

หากเราจำเป็นต้องใช้เงินด่วนมากๆ และไม่สามารถหาแหล่งเงินทุนหรือเงินกู้ตามปกติได้ทัน บัตรเครดิตสามารถช่วยให้เรามีเงินมาหมุนลงทุนในเดือนที่เกิดเหตุฉุกเฉินจริงๆ ได้ด้วยการกดเงินสดมาใช้เป็นเงินทุนไปก่อน (ควรใช้เมื่อถึงเวลาฉุกเฉินหรือตอนที่มีเหตุการณ์จำเป็นจริงๆ เท่านั้น เพราะว่ามันไม่ได้เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ควรทำเท่าไรนัก)
โดยสิ่งที่เราต้องคำนึงถึงก่อนที่จะเลือกบัตรเครดิตสักใบมาใช้ก็คือ เรื่องของดอกเบี้ยและระยะเวลาในการผ่อนชำระ ซึ่งเราควรเลือกทำบัตรเครดิตของธนาคารที่มีความยืดหยุ่น เช่น มีดอกเบี้ยต่ำ และมีระยะเวลาผ่อนชำระนาน เพื่อที่ธุรกิจออนไลน์ของเรานั้นจะได้มีกำลังพอที่ในการผ่อนส่ง และไม่ต้องเป็นหนี้หัวโตไปซะก่อน

3.ช่วยให้มีโอกาสในการกู้เงินได้ง่ายขึ้น

ถ้าเรามีประวัติการผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิตที่ดี ประมาณว่าเป็นลูกค้าชั้นดีของธนาคารที่เราทำบัตรไว้ เมื่อใดก็ตามที่เราต้องการกู้เงินจากธนาคารที่เป็นลูกค้าอยู่ ซึ่งอาจจะนำมาใช้ในการขยายธุรกิจ ต่อยอดธุรกิจ หรือเรื่องส่วนตัวใดๆ ก็ตามที่ทำให้เราจำเป็นต้องกู้ ก็จะช่วยให้เราสามารถกู้เงินผ่านได้ง่ายยิ่งขึ้น
เนื่องจากการมีประวัติในการผ่อนชำระที่ดี สามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับทางฝ่ายสินเชื่อของธนาคารได้ว่า เราจะไม่ก่อให้เกิดหนี้เสียอย่างแน่นอน ซึ่งเราก็จะมีโอกาสในการกู้เงินได้สำเร็จมากกว่าคนที่ไม่เคยใช้บัตรเครดิตมาก่อนเลย เพราะไม่มีข้อพิสูจน์ใดๆ เลยว่าพวกเขาเป็นลูกหนี้ชั้นดีที่มีประวัติดีมากนั่นเอง (ดังนั้นเราก็ต้องทำตัวเองให้มีประวัติที่ดีให้ได้ด้วยล่ะ)

4.การเพิ่มวงเงินในบัตรเครดิต

สืบเนื่องมาจากข้อที่แล้วเกี่ยวกับการมีประวัติการผ่อนชำระบัตรเครดิตที่ดี ซึ่งนอกจากจะช่วยเรื่องการกู้เงินให้สำเร็จได้ง่ายขึ้นแล้ว มันยังสามารถช่วยในเรื่องของการเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตได้ด้วย
ซึ่งนี่ถือเป็นข้อดีอีกอย่างหนึ่งของบัตรเครดิตที่ผู้ทำธุรกิจออนไลน์ควรมีไว้ เพื่อจะได้มีเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจเพิ่มมากขึ้น และหากมีวงเงินที่มากขึ้น ก็สามารถนำไปต่อยอดการทำธุรกิจของตัวเองต่อไปได้อีกด้วย
บัตรเครดิต

อยากมีเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ

 สมัครบัตรเครดิตได้ดังนี้


  • เช็คข้อมูลบัตรเครดิตของธนาคารต่างๆ ว่ามีที่ไหนบ้างที่ไหนตอบโจทย์เรื่องความเหมาะสมกับธุรกิจของตัวเองมากที่สุด ซึ่งควรจะศึกษารายละเอียดอย่างรอบคอบ และถี่ถ้วน เพื่อจะได้ใช้บัตรตรงกับความต้องการของเรา หรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียงกับความต้องการที่สุดเท่าที่จะทำได้
  • พอเลือกธนาคารที่เหมาะได้แล้ว ก็ให้เข้าไปติดต่อดูว่าต้องใช้หลักฐานอะไรบ้าง โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นหลักฐานที่แสดงเกี่ยวกับการทำธุรกิจของเราเอง (บางคนถ้าเป็นธุรกิจออนไลน์ที่ใหญ่หน่อย ก็อาจมีหลักฐานเกี่ยวกับการจดทะเบียนทำธุรกิจ) ตามด้วยยอดเงินในบัญชีทั้งรายรับ-รายจ่าย ประวัติการชำระเงินที่ผ่านมา ซึ่งทุกอย่างล้วนมีผลต่อการอนุมัติวงเงินบัตรเครดิตทั้งสิ้น
  • เมื่อเตรียมหลักฐานทุกอย่างที่ต้องใช้ในการทำบัตรเครดิตครบทั้งหมดแล้ว ก็ให้ไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ของธนาคาร เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการให้ทันที จากนั้นก็มีหน้าที่รอ รอ แล้วก็รอ จนกว่าจะได้บัตรเครดิตมาใช้
  • การรอผลจะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน ซึ่งส่วนใหญ่ทางธนาคารจะมี SMS แจ้งเตือนมาบอกว่าบัตรเครดิตที่ทำไปนั้นอนุมัติผ่านหรือไม่ ถ้าผ่านแล้วได้วงเงินเท่าไหร่ แต่หากเกินหนึ่งเดือนแล้วเรื่องยังเงียบ ก็ควรจะติดต่อกับทางธนาคารใหม่อีกครั้ง เพื่อจะได้รับทราบสาเหตุที่ทำให้ล่าช้ากว่าปกติ
  • ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยหมดและได้บัตรเครดิตมาแล้ว อย่าลืมสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ด้วยว่าบัตรที่ได้มานั้นสามารถใช้งานได้ทันทีเลยมั้ย หรือต้องโทรไปที่ Call Center เพื่อทำการเปิดใช้งานบัตรเครดิตก่อนกันแน่
  • เมื่อถึงเวลาที่ใช้งานบัตรเครดิต ในทุกๆ ครั้งที่มีการใช้บัตร ควรที่จะเก็บสลิปของบัตรไว้ด้วยเพื่อนำไปใช้ในการตรวจสอบเรื่องค่าใช้จ่ายของตัวเอง จะได้รู้ว่าแต่ละเดือนเราจ่ายค่าอะไรไปเท่าไหร่แล้วบ้าง ซึ่งมันจะช่วยในเรื่องการวางผ่านว่าควรจะชำระหนี้แบบไหนดี อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นหลักฐานในการซื้อขายได้ด้วย หากเกิดมีปัญหาขึ้นมา
หลังจากที่เราได้พูดถึงส่วนของเจ้าของธุรกิจออนไลน์ ที่ใช้บัตรเครดิตในการทำธรุกิจของตัวเองแล้วยังไง ก็ถึงเวลาของส่วนที่เกี่ยวกับเจ้าของธุรกิจที่ให้ลูกค้าชำระเงินตอนซื้อของด้วยบัตรเครดิตกันบ้าง มาติดตามกันต่อเลยดีกว่า

ขายของออนไลน์ ให้ลูกค้าจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตได้ ดียังไง?

อย่างที่บอกไปว่าบัตรเครดิตนั้นเป็นอีกหนึ่งช่องทางการชำระเงินที่ผู้คนนิยมใช้กันไม่น้อยเลย ดังนั้นในการทำธุรกิจออนไลน์หากมีการเพิ่มช่องทางการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตเข้ามา ก็จะเป็นการเพิ่มทางเลือกของวิธีการชำระเงินให้กับลูกค้าไปด้วย ซึ่งข้อดีต่างๆ ของมันก็คือ
  • ช่วยเรื่องการเพิ่มยอดขายให้เราได้ เพราะว่าความอยากได้ของลูกค้าอาจเกิดขึ้น และอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่นานเท่าไหร่ หากลูกค้าสามารถจ่ายเงินได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก็จะทำให้ไม่หายเงียบไป หรือในภาษาการซื้อของออนไลน์เรียกว่า ‘การหลุดของ’ นั่นเอง
  • ลูกค้าบางคนที่ไม่ได้ใช้ Mobile Banking ก็มีความสะดวกสบายมากขึ้น เพราะไม่ต้องไปที่ตู้ ATM หรือเข้าเว็บไซต์ธนาคารเพื่อโอนเงิน และกรณีที่ลูกค้ายังไม่มีเงินสดในธนาคารเพียงพอที่จะซื้อสินค้า ก็สามารถใช้วงเงินในบัตรเครดิตซื้อไปก่อนได้ ทำให้เรามีรายได้จากการขายของเพิ่มขึ้นได้ด้วย
  • ลูกค้ากล้าที่จะจ่ายเงินซื้อของมากยิ่งขึ้น เพราะพวกเขารู้สึกว่าตัวเองยังไม่ต้องจ่ายค่าของที่ซื้อเป็นเงินสดจริงๆ ในทันที ซึ่งอาจทำให้ลูกค้ามีความกล้าที่จะซื้อของที่มีราคาแพงขึ้น หรืออาจทำให้กล้าซื้อของหลายชิ้นขึ้นก็เป็นไปได้
  • ร้านค้าออนไลน์ของเราเองจะได้รับความเชื่อมั่น และมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ระบบการชำระด้วยบัตรเครดิตนั้นมีความปลอดภัยสูง สามารถตรวจสอบได้ ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าเมื่อซื้อของไปแล้ว จะไม่ถูกโกงแน่นอน อีกทั้งลูกค้ายังรู้สึกได้ประสบการณ์ในการซื้อเหมือนกับซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ใหญ่ๆ ที่มีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้อีกต่างหาก
  • ตัวเราเองไม่ต้องมาคอยนั่งเช็กและคอยเป็นห่วงกับยอดเงินที่ต้องโอนเข้ามา ให้เกิดความกังวลใจ ส่วนตัวของลูกค้าเมื่อทำการชำระด้วยบัตรเครดิตเสร็จเรียบร้อย ก็จะได้รับ SMS แจ้งเตือนทันทีว่าถูกตัดยอดจากบัตรไปจำนวนเท่าไหร่
การให้ลูกค้าสามารถใช้บัตรเครดิตชำระเงิน เพื่อซื้อของออนไลน์ในร้านเราได้ ถือเป็นเรื่องที่มีประโยชน์และข้อดีไม่น้อยเลยทีเดียวในการทำธุรกิจออนไลน์ ซึ่งถ้าหากลูกค้าคนไหนที่มีความสนใจจะใช้บัตรเครดิตในการช้อปปิ้งออนไลน์ แต่ยังไม่รู้ว่าควรจะต้องเริ่มต้นยังไงดี เราก็มีคำแนะนำมาบอกให้ทราบเช่นกัน
บัตรเครดิต

ใช้บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์ครั้งแรก 

ต้องทำยังไง?

สำหรับใครก็ตามที่มีบัตรเครดิตและใช้ซื้อของอยู่แล้วเป็นประจำ แต่ยังไม่เคยใช้บัตรเครดิตในการซื้อของออนไลน์มาก่อน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วบัตรเครดิตที่ใช้กันหลักๆ จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ VISA และ MasterCardเมื่อเริ่มใช้ครั้งแรก ผู้ถือบัตรจะต้องทำการยืนยันบัตรก่อน เพื่อเป็นการป้องกันการขโมยบัตรเครดิตไปใช้
ถ้าต้องการซื้อของออนไลน์ด้วยบัตรเครดิตเป็นครั้งแรก จะต้องทำการ Verified by VISA หรือ MasterCard SecureCode เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของตัวเจ้าของบัตรเอง เนื่องจากการ Verified by VISA และ MasterCard SecureCode นั้นเป็นบริการที่ทางธนาคารผู้ออกบัตรได้ร่วมกับ Visa และ MasterCard พัฒนากันขึ้นมา
โดย Verified by VISA ก็คือ ระบบตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตในการชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วยบัตร VISA Card ส่วน MasterCard SecureCode ก็คือ ระบบตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตในการชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วยบัตร MasterCard
ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะสามารถตรวจสอบการใช้งานบัตรเครดิตทางอินเทอร์เน็ตได้ และยังเป็นการป้องกันการถูกลักลอบใช้บัตรเครดิตอีกด้วย ซึ่งผู้ใช้งานสามารถซื้อสินค้าหรือบริการออนไลน์ต่างๆ ได้ด้วยความมั่นใจ พร้อมกับมีความเป็นส่วนตัว โดยการใช้รหัสผ่านจากการ Verified by VISA หรือ รหัสผ่าน ของ MasterCard SecureCode
ตัวผู้ใช้บัตรเองสามารถมั่นใจได้ว่ากำลังทำรายการผ่านร้านค้าออนไลน์ที่ลงทะเบียนกับ VISA และ MasterCard อย่างถูกต้อง ไม่ได้เป็นมิจฉาชีพมาหลอกหรือโกง และทันทีที่ผู้ใช้บัตรลงทะเบียนกับ Verified by VISA หรือ MasterCard SecureCode จะไม่มีบุคคลใดที่สามารถใช้หมายเลขบัตรของคุณในการใช้จ่ายออนไลน์ได้อย่างแน่นอน หากพวกเขาไม่รู้รหัสผ่าน Verified by VISA หรือ MasterCard SecureCode

ขั้นตอนการใช้บริการก็ง่ายๆ คือ

  • เจ้าของบัตรเครดิตจะต้องลงทะเบียนกับธนาคารที่ออกบัตร เพื่อกำหนดรหัสผ่านก่อน โดยรหัสผ่านนี้จะนำไปใช้ควบคู่กับการชำระค่าสินค้า หรือบริการออนไลน์ต่างๆ ที่ตัวผู้ใช้บัตรได้ใช้บริการ
  • เมื่อเจ้าของบัตรได้ทำการลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะสามารถใช้เลขที่บัตรเครดิตและรหัสผ่านที่ได้รับมาในการชำระค่าสินค้า หรือบริการออนไลน์กับทางร้านค้าออนไลน์ ที่ลงทะเบียนกับ VISA หรือ MasterCard อย่างถูกต้องได้ทันที
  • ปล. เว็บไซต์ของแต่ละธนาคารที่คุณสนใจจะใช้บริการบัตรเครดิตด้วยนั้น จะมีวิธีการลงทะเบียนและดูรายละเอียดการใช้บริการ Verified by VISA ของบัตร VISA และ MasterCard SecureCode ของบัตร MasterCard แนะนำให้ทราบอยู่ ซึ่งทุกคนสามารถเข้าไปอ่านและทำตามขั้นตอนกันเองได้เลย
หากวิธีการและขั้นตอนต่างๆ ทั้งหมดที่เราได้นำเสนอไปยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้คุณลูกค้าทั้งหลายในเรื่องการซื้อของออนไลน์ด้วยการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตอีกล่ะก็ เรายังมีวิธีการสุดท้ายมาฝาก ซึ่งก็คือ วิธีใช้บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์ให้ปลอดภัยที่สุด นั่นเอง
บัตรเครดิต

ใช้บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์ ทำยังไงให้ปลอดภัย

อย่างที่บอกไปว่าการซื้อของออนไลน์ด้วยการตัดเงินจากวงเงินบัตรเครดิตนั้นเป็นสิ่งที่ผู้คนนิยมใช้กันมากขึ้นในปัจจุบัน แต่ก็ยังมีบางคนที่รู้สึกไม่ค่อยแน่ใจในเรื่องของความปลอดภัยของข้อมูลอยู่ดี ดังนั้นเราจึงมีวิธีใช้บัตรเครดิตในการชำระเงินออนไลน์ให้ปลอดภัยมาบอกทุกคนกัน 
  • อย่างแรกเลยคือ พึ่งสัญชาตญาณของตนเองกันสักนิด ด้วยการเลือกร้านที่มีชื่อเสียงหรือมีความน่าเชื่อถือพอสมควร อาจดูจากจำนวนลูกค้าที่เข้ามาชมสินค้า กดไลค์หรือคอมเม้นต์ต่างๆ ถ้าหากเจอสิ่งที่น่าสนใจในร้านค้าออนไลน์ใหม่ ที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แนะนำให้อ่านรีวิว หรือตรวจสอบความน่าเชื่อถือให้ดีก่อนที่จะกดสั่งซื้อ
  • พยายามอย่าไปซื้อของหรือทำธุรกรรมออนไลน์ผ่านคอมพิวเตอร์หรือ Wi-Fi สาธารณะ แนะนำว่าควรใช้คอมฯ ของตัวเองที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi ของบ้านตัวเอง, ที่ทำงานที่มีบริการ Wi-Fi ด้วยความมั่นคงปลอดภัยมากกว่า หรือใช้เน็ตจากมือถือของตัวเองจะดีกว่า
  • ไม่ควรเก็บข้อมูลบัตรเครดิตลงบนเบราเซอร์หรือระบบของร้านค้า ถึงแม้ว่าการกระทำเหล่านี้จะเพิ่มความสะดวกสบายแก่ตัวคุณเองก็ตาม แต่ว่ามันเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่ข้อมูลจะรั่วไหลสู่สาธารณะได้ด้วยเช่นกัน
  • ซื้อสินค้ากับเว็บไซต์ที่ทำการติดตั้งระบบความปลอดภัย SSL เท่านั้น โดยวิธีสังเกตก็คือ ให้ดูจาก URL ของเว็บไซต์นั้น ถ้าหากเป็น https:// และมีรูปแม่กุญแจสีเขียวเเสดงอยู่คู่กันด้วย หมายความว่าเว็บไซต์นั้นสามารถไว้ใจได้แน่นอน เพราะระบบความปลอดภัยนี้จะทำการเก็บรักษาข้อมูลทั้งหลายของคุณเอาไว้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลบัตรเครดิต/เดบิต รวมถึงรหัสผ่านต่างๆ เพื่อป้องกันการถูกขโมยจากมิจฉาชีพหรือการเปิดเผยข้อมูลต่อบุคคลอื่น
  • บริการจ่ายผ่านบัตรเครดิตของเว็บไซต์ที่คุณเข้าใช้บริการต้องผ่านมาตรฐานระดับโลกอย่าง PCI DSS ซึ่งเป็นมาตรฐานในระดับโลกที่กำหนดขึ้นเพื่อรักษาความปลอดภัยและปกป้องข้อมูลของผู้ถือบัตร ทั้งหมายเลขหน้าบัตร ชื่อเจ้าของบัตร วันหมดอายุ และรหัสหลังบัตร โดยเว็บไซต์ขายของออนไลน์โดยส่วนใหญ่ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานนี้มักจะมีข้อมูลต่างๆ อยู่ในเว็บไซต์ และคุณสามารถตรวจสอบได้ง่ายๆ ด้วยการ Search Google แล้วพิมพ์ชื่อเว็บที่ต้องการตรวจสอบ ตามด้วย PCI DSS หากมีมาตรฐาน PCI DSS ปรากฏอยู่ในเว็บนั้น ก็สามารถวางใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย
  • หากได้รับ SMS แจ้งยอดการใช้งานบัตรเครดิตโดยที่คุณไม่ได้ใช้ (ในกรณีที่คุณได้ทำการเปิดบริการแจ้งเตือนผ่านมือถือกับทางธนาคารเจ้าของบัตร) หรือหากพบว่ายอดการใช้บัตรของคุณเป็นเงินสกุลต่างประเทศ ให้รีบติดต่อธนาคารทันที ห้ามปล่อยไว้หรือชักช้าเป็นอันขาด เพื่อให้ทางธนาคารรีบทำการตรวจสอบข้อมูล เพราะตามปกติแล้ว ถ้าทางร้านค้าออนไลน์ไม่มีหลักฐานมายืนยันว่าคุณได้สั่งซื้อสินค้าจากทางร้าน ธนาคารก็จะคืนเงินให้กับคุณเต็มจำนวนตามที่เสียไป

และทั้งหมดนี้ก็คือคำตอบของคำถามที่ว่าบัตรเครดิตจำเป็นยังไงในการทำธุรกิจออนไลน์ สำหรับใครก็ตามที่กำลังทำธุกิจออนไลน์อยู่ หรือต้องการเริ่มทำธุรกิจออนไลน์ ยังไงก็ลองนำวิธีที่เราแนะนำทั้งส่วนที่หนึ่งและส่วนที่สองไปปรับใช้ให้เข้ากับธุรกิจของตัวเองกันดูได้ จะได้มีแนวทางใหม่ๆ ในการทำธุรกิจบ้าง



ขอบคุณแหล่งข้อมูลจากเวป rabbitfinance.com

ไม่มีความคิดเห็น:

โพสต์แนะนำ